เมนู

ได้เห็นมหาปุริสลักษณะ 32 ประการ โดยมาก เว้นอยู่ 2 ประการ คือ
พระคุยหะเร้นอยู่ในฝัก 1 พระชิวหาใหญ่ 1 จึงยังเคลือบแคลงสงสัย ไม่
เชื่อไม่เลื่อมใสอยู่.
ลำดับนั้น พระผู้มีพระภาคเจ้าทรงดำริว่า อัมพัฏฐมาณพนี้เห็น
มหาปุริสลักษณะ 32 ประการของเรา โดยมาก เว้นอยู่ 2 ประการ
คือ คุยหะเร้นอยู่ในฝัก 1 ชิวหาใหญ่ 1 ยังเคลือบแคลงสงสัย ไม่เชื่อ
ไม่เลื่อมใสอยู่. ทันใดนั้นจึงทรงบันดาลอิทธาภิสังขารให้อัมพัฏฐมาณพ
ได้เห็นพระคุยหะเร้นอยู่ในฝัก และทรงแลบพระชิวหาสอดเข้าช่องพระ
กรรณทั้ง 2 กลับไปกลับมา สอดเข้าช่องพระนาสิกทั้ง 2 กลับไปกลับมา
แผ่ปิดจนมิดมณฑลพระนลาต.
(171) ครั้งนั้น อัมพัฏฐมาณพคิดว่า พระสมณโคดมประกอบ
ด้วยมหาปุริสลักษณะ 32 ประการ บริบูรณ์ ไม่บกพร่อง ดังนี้แล. เขา
จึงได้ทูลลาพระผู้มีพระภาคเจ้าว่า ข้าแต่พระโคดมผู้เจริญ ข้าพเจ้า
ขอทูลลาไป ณ บัดนี้ ข้าพเจ้ามีกิจมาก มีธุระมาก.
ดูก่อนอัมพัฏฐะ เธอจงสำคัญกาลอันควรบัดนี้. แล้วอัมพัฏฐ-
มาณพ
ก็ขึ้นรถเทียมลากลับไป.

โปกขรสาติพราหมณ์


(172) สมัยนั้นพราหมณ์โปกขรสาติลุกออกมานั่งคอยรับ
อัมพัฏฐมาณพอยู่ ณ อาศรมของตน พร้อมด้วยพราหมณ์หมู่ใหญ่. ฝ่าย
อัมพัฏฐมาณพขับรถไปอาศรมของตน จนสุดทางที่รถไปได้แล้ว ลงเดิน
เข้าไปหาพราหมณ์โปกขรสาติ ไหว้แล้วนั่งอยู่ ที่ควรข้างหนึ่ง.